
สวัสดีค่าสาวๆ ในที่สุดดดด blog นี้ก็เสร็จสักที ฮี่ๆๆ (ถ้าได้อ่านก็แสดงว่าเสร็จแล้ว)
ท้าวความก่อน คืออีฟได้ไปแก้จมูกมาแหละ
สาเหตุที่แก้คือ รู้สึกว่ามันไม่โด่ง มันธรรมชาติมากๆๆๆเกินไป
ที่ผ่านมาบอกใครว่าทำจมูกยังมีแต่คนตกใจว่านี่ทำละเหรอ ? ทำมาแล้วจริงอะ ? 55555
เออ ทำมาแล้วแก… ซึ่งตอนนั้นที่ทำเราก็ยังเด็กๆอยู่ ทำตั้งแต่อยู่มหาลัยปี 2 นี่ก็ผ่านมาแล้ว 7 ปี
โตแล้ว คิดออกแล้วล่ะว่ามันไม่โด่ง มันน่าจะโด่งกว่านี้สิ 5555
ยิ่งพอมาแต่งหน้าบ่อยๆบางทีเฉดดิ้งจนดั้งดำมันยังไม่โด่งเล้ยยย 5555 แล้วก็เบี้ยวด้วย ก็เลยตัดสินใจแก้ดีกว่า
รูปก่อนแก้จมูก แบบแต่งหน้า เฉดดิ้ง ไฮไลท์ งัดสุดๆแล้ว มันก็เท่านี้ถามว่ามันเป็นอะไรมั้ย ก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก
แต่ไม่พอใจไงเพราะหามุมถ่ายรูปยากเหลือเกิน เฉดดิ้งกันจนจมูกดำ
อีฟไปทำที่”ธนพรคลินิก”กับ”คุณหมออั้ม” ที่สาขารัชโยธิน
สาขานี้ค่อนข้างใหญ่สะดวกสบาย ใหม่และสะอาดดีค่ะ
คลินิกอยู่ใกล้ๆกับเมเจอร์รัชโยธิน ตรงข้ามกับตึกช้าง อยู่ริมถนนเลย มีที่จอดรถข้างคลินิก
หาไม่ยากค่ะ google map โลด
ตอนแรกก็ไปปรึกษาคุณหมอก่อนว่าทำดีมั้ย ยังไงดี หมอว่าไงคะ เราก็กล้าๆกลัวๆ กลัวเจ็บไม่ใช่อะไร 555
คุณหมอก็เอาไฟส่องหน้าเรา แบบส่องจริงจัง วิเคราะห์หน้าเราก่อน
หมอมองแล้วบอกว่าจมูกเราเบี้ยวแล้วก็ไม่โด่ง ถ้าโด่งกว่านี้ก็ดี ก็จะสวยกว่านี้ ให้เราคิดว่าจะยังไง จะทำหรือไม่ทำ
แต่คุณหมอจะเน้นว่าทำแล้วดูไม่หลอกตา ทำแล้วต้องสวยขึ้น
“ถ้าทำแล้วไม่สวยขึ้นก็ไม่แนะนำให้ทำ” แต่สำหรับเราหมอว่าถ้าทำใหม่ได้ก็ทำใหม่เถอะ…555
เรื่องปรึกษาทรงจมูกจริงๆอีฟเอาจมูกของน้องเก้าไปให้หมอดู
หมอก็บอกว่ามันเทียบกันไม่ได้ว่าออกมาจะได้แบบเค้าเป๊ะ
เพราะสัดส่วนหน้าคนเราไม่เท่ากัน มันต้องดูพื้นฐานของเราเป็นหลัก
ไม่ใช่ว่าดูหน้าเค้าแล้วเอามาเป็นหน้าเรา แต่ถ้าชอบโด่งมาก โด่งน้อย สไตล์ประมาณไหน ยังงี้คุยกันได้
อีฟบอกว่าอยากได้โด่งกว่าเดิม ทรงจมูกคล้ายๆเดิม ส่วนความยาวปลายหมอบอกได้เท่าเดิมนะเพราะเนื้อสุดแค่นั้น
แต่ความโด่งปลายจะเชิดขึ้นกว่าเดิม เป็นทรงสวยขึ้น โอเคค่ะหมอ ตกลงตามนี้ค่ะ
ต่อมาคุณหมอให้ดูซิลิโคนที่จะใช้จริงๆจะมี 3 แบบ แบบนิ่มมาตรฐาน แบบนิ่มพิเศษ
และแบบวัสดุทดแทนซิลิโคนหรือ PDMS อันนี้แหละ อยากจะบอกว่ามันนิ่มมาก นิ่มเหมือนเยลลี่เด้งดึ๋ง บิดได้ทุกองศา
“วัสดุแทนซิลิโคน PDMS ดียังไง”
1. นิ่มมาก นิ่มเกรดพิเศษ ถ้าได้จับทั้ง 3 แบบจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน แล้วก็จะเลือกแบบนี้ จริงๆนะ
2. ส่วนปลายของซิลิโคนนิ่มมาก เลียนแบบกระดูกอ่อนของมนุษย์ ปลอดภัย สวยงาม มีหยดน้ำ
3. พื้นผิวเรียบดังนั้นจึงไม่เกิดพังผืด จมูกไม่เสียรูป ในอนาคต
4. ตลอดแนวของซิลิโคนจะมี anatomical groove ช่วยให้ซิลิโคนยึดติดแนบไปกับกระดูกไม่ให้เคลื่อนที่หรือเอียง
5. ตรงส่วนโคนจะไม่เห็นรอยต่อระหว่างโคนจมูกจริงกับซิลิโคนทำให้ดูธรรมชาติ
อีฟว่าทำทั้งทีเลือก PDMS ไปเลยดีกว่า ได้จมูกคล้ายของจริง เป็นธรรมชาติ
มีปลายหยดน้ำเล็กๆ (ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อจมูกเดิมของเราด้วยนะ)
ส่วนเทคนิคการทำของที่นี่เรียกว่า MIR (Minimal Invasive Rhinoplasty)
เป็นเทคนิคใหม่ล่าสุดทางการแพทย์ แผลเล็ก เจ็บน้อย โอกาสช้ำและบวมน้อย
ก่อนทำก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้เรากินยาแก้อักเสบ ลดปวด ลดบวม อีฟแนะนำว่าให้กินข้าวไปก่อนจะได้ไม่กัดกระเพาะ
อย่าทำแบบอีฟ กินเที่ยง ทำบ่ายสี่ เกือบไม่ไหว ทำเสร็จแทบเป็นลมเพราะหิวข้าว+ตื่นเต้นมาก 5555
ทางที่ดีพกแซนวิชอะไรก็ได้ติดกระเป๋าไปสักหน่อยก็ดีค่ะ เพราะแถวนั้นไม่มีของกินขาย
แล้วเค้าก็จะอธิบายยาต่างๆว่ากินตอนไหนยังไง มีที่เช็ดหน้า กับที่ล้างแผล
เค้าก็จะอธิบายก่อนทำซึ่งยังเป็นตอนที่เรายังมีสติดีอยู่ ตรงนี้ต้องตั้งใจฟังดีๆนะคะ
ต่อจากนั้นก็ได้เวลาบอกลาซิลิโคนแท่งเก่า บ๊ายยย อยู่กับเรามาตั้ง 7 ปี ลาก่อยยย
เค้าก็จะให้เราล้างหน้าทำความสะอาดผิว วันนั้นแนะนำว่าไม่ต้องแต่งหน้าไปเลยก็จะดี
หรือถ้าใครจำเป็นต้องแต่งหน้าก็พก cleansing ไปด้วยค่ะ วันนั้นอีฟทาแค่กันแดด แป้งฝุ่น เขียนคิ้วเบาๆ
สุดท้ายก็ล้างออกหมด ทางคลินิกจะให้เราใช้น้ำยาสีแดงๆล้างหน้าเหมือนเป็นยาฆ่าเชื้ออะ
ล้างเสร็จแล้วก็ไม่ต้องพกครีมไปทานะ นั่งรอหมอหน้าสดแห้งๆยังงั้นไปเลย
ขั้นตอนการทำ ก็… ไม่มีอะไรมาก ตอนนั้นเบลอๆนิดนึง รู้แต่ว่าตื่นเต้นมากกกกกกกก
ตรงนี้ใครกลัวเข็มก็ดูแว้บๆก็ได้นะคะ 5555
ตอนรอคุณหมอพี่ผู้ช่วยจะมาเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อในรูจมูกเราก่อน ก็หายใจทางปากไป มันจะฉุนจมูกนิดนึง
พอคุณหมอมา หมอจะ mark จุดเอาไว้ก่อน หมอจุดไวมาก เป๊ะมาก
จากนั้นก็ฉีดยาชา ขั้นตอนนี้เจ็บที่สุดในทุกกระบวนการการทำจมูกแล้วแหละ อดทนไว้ 5-10 วินาที
เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง ชามาก ชามายันฟัน แล้วก็รอยาชาออกฤทธิ์สัก 10 นาทีค่ะ
(ขอทำภาพขาวดำเพราะมีเลือด เผื่อบางคนกลัวเลือดอะไรงี้)
พอยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก็จัดการงัดเอาซิลิโคนอันเก่าออกมา
ละนั่น!คือจมูกแหมบๆที่แท้จริง เห็นเลยว่าพื้นเดิมมีแต่ปลายจมูกไว้เพื่อหายใจ 55555
ตรงดั้งไม่มีอะไรที่มีไว้เพื่อสวยงามเลยยยย
จำได้ว่าคุณหมอก็งัดอยู่ค่อนข้างนานหลายนาทีอยู่ แล้วก็เอาพังผืดออก ก็นะทำมาตั้ง 7 ปีแล้วอะ
เป็นเรื่องธรรมดา ตอนเอาซิลิโคนออกไปได้รู้สึกเหมือนมีอะไรหลุดออกมาจากจมูกแบบโล่งจมูกเลย
ขั้นตอนนี้ไม่เจ็บเพราะชา แต่ว่าเสียวๆนิดหน่อย
หมอก็ตัดแต่งซิลิโคนให้เข้ากับรูปจมูกเรา
ใส่ซิลิโคนเข้าไป มาขั้นตอนนี้เราสบายใจละ เพราะจำได้ว่าพอใส่ซิลิโคนเข้าไปก็คือใกล้เสร็จแล้ว
แล้วหมอก็จัดรูปซิลิโคนให้เข้าที่
เย็บแผลจ้าาาา รู้สึกดึงๆนิดหน่อย แต่ไม่เจ็บเพราะชาเหมือนเดิม
พอเย็บแผลก็คือเสร็จ!! เสร็จแล้ววว ในใจคือจุดพลุ ฮาเลลูย่า หมดนี่ใช้เวลาไปแค่ 8 นาทีกว่าๆเท่านั้น!!
เห้ย เร็วมากกกก เสร็จแล้วแบบงงๆ เจ็บแต่จบแล้วทุกคนนน
เสร็จแล้วแบบทันทีทันใด จำได้ หมอบอก เอ้ออดูดีขึ้นเยะเลย โอยยใจชื้นมาก หายเจ็บทุกอย่างเลยค่ะ
ปล.หน้าบวมมาก วอนสังคมให้อภัยอีฟฟี่ด้วย 55555
พี่ผู้ช่วยมารีดเลือดออก เพราะของเราเลือดออกเยอะและค่อนข้างบวม เพราะว่าเป็นเคสแก้นะ
ต้องเอาซิลิโคนอันเก่าออกมางี้ มันเลยบวมกว่าคนที่ทำใหม่ แต่พี่เค้าก็ประคบเย็นลดบวมให้ค่ะ
โฉมหน้าน้องซิลิอันเก่า เป็นแบบไม่มีขา
ทำเสร็จแล้วก้เดินลงมาข้างล่าง ถ่ายรูป
Before-After แบบทันทีทันใด (นี่ทำไม Before แหมบเหมือนไม่เคยทำมาก่อนขนาดนั้น 5555)
เนื่องจากว่าฐานจมูกเดิมอีฟเบี้ยว อีฟเลยต้องแปะเทปดามจมูกเอาไว้ด้วย
หน้าตาก็คือสามารถออกไปข้างนอกได้ผู้คนไม่ตกใจ ใครมาคนเดียวเรียกแท็กซี่กลับบ้านก็ยังไหวอยู่
ความรู้สึกตอนทำเสร็จทันที : มึนๆ ชาๆ แบบว่านี่เสร็จแล้วหรอ รู้สึกล่องลอยนิดๆ 5555 มันระบมๆอะ
คืออีฟเคสแก้ไง ถ้าทำใหม่แค่ใส่ซิลิโคนเข้าไปคงไม่ได้ระบมอะไรมาก
ระหว่างทางกลับบ้านก็มีเลือดไหลนิดๆ ทางคลินิกจะให้สำลีกับนำแข็งมา ก็นั่งซับเลือดไปประคบไป
พอยาชาหมดฤทธิ์ก็ปวดๆนิดหน่อยค่ะไม่ได้ทรมานอะไร
มาดู timeline กันนะว่ามีความเปลี่ยนแปลงประมาณไหน
ก่อนทำ ฐานจมูกเดิมอีฟค่อนข้างกว้างนะคะ ซิลิโคนเดิมเบี้ยว แล้วก็โด่งแบบธรรมชาติเกินไป 555
หลังทำทันที หน้าตาเบลอๆนิดนึง 555 แต่เห็นเลยว่าจมูกพุ่งกว่าเดิม
หลังจากทำมา วันแรกกับวันที่ 2 จะปวดๆตึงๆหน่อยค่ะ เริ่มตึงๆมาที่ตาด้วยแต่ไม่ได้อะไรมาก
เพราะอีฟกินยาตรง ครบทุกมื้อ วันที่ 3-4 จะบวมหนักสุด แล้วจะค่อยๆยุบลง
แผลในจมูกมีจี๊ดๆบ้างบางครั้ง
ครบ 1 อาทิตย์จ้าาา รอยช้ำใต้ตายังคงหลงเหลือ แล้วก็ยังบวม
ย้ำอีกทีว่าช้ำเพราะของอีฟเคสแก้ จมูกเดิมอีฟทำมา 7 ปีจ้าา มันนานมันเลยเกาะแน่น
และพื้นฐานเดิมอีฟเป็นคนช้ำง่ายอยู่แล้ว ขนาดร้อยไหมใต้ตาอีฟยังช้ำได้โหดมาก
ถ้าใครจำได้หรือเคยติดตามกันมาก่อน ตอนโน้นนที่อีฟทำคลิปแต่งหน้ากลบรอยช้ำอะ ไปหาดูได้ในช่องยูทูปอีฟนะ
วันที่ 9 ไปตัดไหมแล้ว แต่งหน้าเบาๆกลบรอยช้ำใต้ตา ยังกระแดะเฉดดิ้งจมูกอีกนิดนึง 5555
ก็ออกไปข้างนอกอะ ไปหน้าสดหรอไม่ดีมั้ง อายคน 555555 คือมันยังบวมอยู่ด้วย
ตัดไหมก็แง้บๆนิดเดียว ตอนแรกกลัวเพราะตอนที่อีฟทำครั้งแรกใช้ไหมละลายคือไม่ต้องยุ่งอะไรกับแผลเลย
ครั้งนี้ต้องไปตัดไหม กลัวเจ็บ แฟนก็บอกว่าแก้จมูกมาขนาดนี้มากลัวตัดไหมเนี่ยนะ 55555
พอเอาเข้าจริงไม่เจ็บเลยแค่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงๆที่แผลแค่นั้นแหละ
หมอเค้าก็มือเบา ตัดนิดตัดหน่อยก็เสร็จ หมอก็เช็ดแผล ดูแผลให้ นิดหน่อยค่ะ ปกติดี
ปล.จมูกเป็นคราบมากกกก เพราะว่าผิวหน้าพังยับเยินสุดๆ
ตลอด 9 วันไม่ได้ล้างหน้าทาครีมอะไรเลยอะ 555
ในวันตัดไหมที่ธนพรคลินิกเค้าจะฉายแสงสีเหลืองเพื่อช่วยลดบวมให้เราด้วยจ้า
อันนี้ฟรี อิอิ เหมือนเป็น offer พิเศษให้คนไข้ จะหายเร็วๆ นอนไป 10 นาที สวยๆ
2 อาทิตย์ รอยช้ำเริ่มจางลง จริงๆก็ใกล้เคียงสีผิวจริงละล่ะเพราะอีฟใต้ตาดำมากอยู่แล้ว 555
ส่วนหัวคิ้วยังบวมอยู่ ด้านขวาจะบวมกว่าด้านซ้ายนะ เพราะหมอทำที่รูจมูกขวาจ้า
3 อาทิตย์ เริ่มเห็นเป็นทรงสวยงามแล้ววว
ครบ 1 เดือนแล้วค่าาา ยุบลงแล้ว เริ่มรัดแกนมากขึ้น
เกือบๆจะ 1 เดือนครึ่ง ไปหาหมอเพื่อ follow up ค่ะ
คุณหมอตรวจ ดูแผลให้ บอกว่าแผลปิดแห้งดี หายแล้ว ทรงจมูกก็ดีกว่าเดิมมาก เย่ ดีใจ
รออีกสัก 2 เดือน 3 เดือนจะรัดแกนกว่านี้ จะสวยขึ้นกว่านี้อีก หู้ยย รอค่ะรอ
แล้วตัวนี้เป็น Mask ครีม Gold Cavier Overnight Mask
จะช่วยบำรุงผิวหน้าหลังจากที่เราทำจมูกมา อย่าลืมว่าไม่ได้ล้างหน้าจนกว่าจะตัดไหม หน้าเยินสุด
พอใช้ตัวนี้แล้วผิวหน้าสว่างสดใสขึ้น ช่วยกระชับผิว ขับสารพิษออกจากผิว ใช้คู่กับการทำจมูกคือดี
เนื้อครีมซึมเร็ว ไม่มีน้ำหอม เนื้อครีมเป็นสีขาวมุก พอทาที่หน้าแล้วจะเป็นสีทอง ไม่เหนียวเหนอะหนะ ล้างออกง่าย
แค่เอาน้ำเปล่าลูบเบาๆก็ออกค่ะ ไม่ต้องล้างหรือถูแรงๆ จะได้ไม่ไปรบกวนจมูกเนอะ
เดี๋ยวจะเปรียบเทียบให้ดูแต่ละมุมนะคะ
หน้าตรง
ด้านข้าง
ด้านข้าง
โดยรวม จมูกใหม่ โด่งขึ้น ปลายเชิดขึ้น พุ่งขึ้น ทรงและสไตล์จมูกยังคล้ายๆเดิมแบบที่เราชอบ
สโลปจมูกดูดีขึ้น มีสันมารับกับปลาย มองหน้าตรงไม่แหมบแล้วววว
ทั้งหมดนี้อีฟว่ามันก็ยังดูธรรมชาติแบบโด่งอะ คือไม่หลอกตานะ ไม่ได้ออกมาเป็นแท่ง มีความละมุนี
คือ ชอบมากๆเลยค่า ตัดสินใจถูกแล้วที่แก้จมูก ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ
ดั้งใหม่ดีงาม ทรงสวย หน้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทั้งหน้าตรงและด้านข้าง
สุดท้ายแล้ว
รวมรูปที่แต่งหน้าใช้ชีวิตประจำวันตามปกติทั้งก่อนและหลังทำจมูกค่า จะได้เห็นว่าในชีวิตประจำวัน
ปกติทั่วๆไปมันแตกต่างกว่าเดิมยังไง
แตกต่างกันพอสมควรเลย ทรงจมูกดูเป็นจมูกดีอะ สวยงามตามท้องเรื่อง
ปัจจุบันแบบแต่งหน้านะคะ
คือจมูกได้รูปดีกว่าเดิม มีปลายหยดน้ำ เวลาแต่งหน้าไม่ต้องเฉดดิ้งหนักมากเท่าเก่า
แต่งหน้าง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก มองหน้าตรงก็มีดั้ง แต่ไม่ได้หลอกตาลอยเด่นมาแต่ไกล
ไปงาน event เจอเพื่อนๆ ส่วนมากก็จะทักว่าหน้าดูมีมิติขึ้น จมูกสวยขึ้นกว่าเดิมมาก
บางคนที่ไม่ค่อยได้เจอกันพอมาเจอก็ทักว่าหน้าดูเปลี่ยนไปเลย
มาถึงข้อควรปฏิบัติหลังจากทำจมูก
-
นอนหมอนสูงและหน้าตรงจนกว่าจะตัดไหม หรือสัก 2 อาทิตย์
-
เช็ดแผลทุกวัน โดยการใช้คอทตอนบัทสะอาดชุบน้ำยาล้างแผลเช็ดในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง
เดี๋ยวตรงนี้พี่เจ้าหน้าที่ที่คลินิกจะบอกวิธีเราเอง
-
อย่าให้แผลโดนน้ำ อย่าเพิ่งล้างหน้า แต่สามารถเช็ดหน้าเบาๆได้ ที่ธนพรคลินิกเค้าจะมีน้ำยาเช็ดหน้ามาด้วย
ซื้อเพิ่มไม่แพง 190 บาท
-
กินยาตามหมอสั่งให้ครบทุกมื้อ
-
2 วันแรกประคบเย็น ถ้าเริ่มมีรอยช้ำก็ประคบร้อน
-
ห้ามขยี้จมูก หากมีเลือดไหลหรือมีน้ำมูกให้ใช้กระดาษทิชชู่สะอาดซับเบาๆ
-
ไม่ควรสั่งน้ำมูก หากเป็นหวัดให้กินยาลดน้ำมูก
-
คนที่ใส่แว่น หากใส่คอนแทคเลนส์ได้ ควรใส่คอนแทคเลนส์ประมาณ 4-6 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันจมูกเบี้ยว
-
เว้นการออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ไม่ก้มหน้านานๆ ประมาณ 1 เดือน
-
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ (จริงๆควรงดทั้งก่อนทำและหลังทำ)
-
งดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระแทก และการเล่นกับสัตว์เลี้ยง
-
มาพบแพทย์ตามหมอนัด หรือหากมีอาการผิดปกติ เช่น ติดเชื้อ ต้องรีบพบแพทย์
ก็ประมาณนี้แหละ จริงๆก็ไม่มีอะไรมากค่ะทำความสะอาดให้ดี กินยาให้ครบ และใจเย็นๆจมูกจะค่อยๆยุบลง
อย่าเพิ่งวิตกกังวัลว่าไม่สวย บวม เอียง ยุบไม่เท่ากัน บลาๆๆ กว่าจะเข้าที่เต็มที่จริงๆคือ 3 เดือน
เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆรอให้จมูกค่อยๆเข้าที่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ตรงนี้หลายคนน่าจะรอคอย
สำหรับราคา ซิลิโคน PDMS 27,000 บาท เคสอีฟ+ ค่าแก้ 10,000 บาท
(ค่าแก้ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละเคสด้วย แต่จะอยู่ในช่วง 5,000 – 10,000 บาท)
–ซิลิโคนแบบมาตรฐาน 15,000 บาท
-ซิลิโคนนิ่มพิเศษ 20,000 บาท
ยังไงโทรสอบถามคลินิกเพื่อสอบถามและนัดคุณหมอก่อนดีกว่า เพื่อความชัวร์
สาขารัชโยธิน เบอร์ 02-930-3703
สาขาอื่นๆลองเข้าไปดูข้อมูลในเว็ปไซต์ http://www.tanapornclinic.com/ นะคะ
วันนี้ต้องไปก่อน
*ทั้งนี้การศัลยกรรมต้องดูพื้นฐานเดิมของเราเป็นหลัก* ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
และการทำศัลยกรรมมีความเสี่ยงควรปรึกษาคุณหมอให้ดีคุยกันให้เข้าใจตั้งแต่แรก
และที่สำคัญเลือกคุณหมอ คลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ไว้ใจได้นะคะ
ขอให้สวยๆกันถ้วนหน้าค่าาา
วันนี้ไปแล้ว บายๆ
❤Talk to me❤
❥ Facebook : Evefee
❥ YOUTUBE Channel Evefee
❥ Instagram : _Evefee_
❥ Twitter _Evefee_
❥ e-mail : evefee.work@hotmail.com